และหันมาซื้อสินค้า Private Lable Brand เพิ่มขึ้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

ผู้บริโภคชาวดัตช์มากกว่า 1 ใน 3 ลดการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคลง เนื่องจากราคาสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และมีความละเอียดอ่อนต่อราคาและข้อเสนอพิเศษหรือการลดราคาสินค้าเพิ่มมากขึ้น โดยผู้บริโภคชาวดัตช์หันมาเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานแบรนด์ราคาประหยัด (Budget Brand หรือ Private Label Brand หรือ House Brand) ที่มีราคาถูกกว่าเพิ่มมากขึ้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน จากเดิมที่เคยเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคแบรนด์เนมของบริษัทผู้ผลิต (Name – Brand หรือ A – Brand)

สินค้าอุปโภคบริโภคและค่าใช้จ่ายประจำต่างๆ ที่มีเพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อเงินในกระเป๋าสตางค์ของผู้บริโภคชาวดัตช์อย่างเห็นได้ชัด Motivaction ได้ทำการสำรวจและวิจัยออนไลน์ในกลุ่มผู้บริโภคชาวดัตช์พบว่า 4 ใน 5 ของผู้บริโภคชาวดัตช์ต้องประหยัดและระมัดระวังในการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และ 1 ใน 3 ของผู้บริโภคชาวดัตช์จะต้องประหยัด รัดเข็มขัด และระมัดระวังในการใช้จ่ายอย่างจริงจัง รวมทั้งต้องจัดลำดับความสำคัญและตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงเพื่อที่จะสามารถบริการจัดการรายได้ให้เพียงพอกับรายจ่ายในแต่ละเดือน 1 ใน 4 ของผู้บริโภคชาวดัตช์เลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคแบรนด์เนมของบริษัทผู้ผลิต (Name – Brand หรือ A – Brand) และ 1 ใน 3 ของผู้บริโภคชาวดัตช์หันมาเลือกซื้อสินค้า Private Label Brand และเลือกสินค้าจำนวนมากในราคาถูก และอีกหนึ่งวิธีที่ผู้บริโภคชาวดัตช์ใช้ในการประหยัดค่าใช้จ่าย คือ การหันมาเข้าครัวทำอาหารทานเองที่บ้านบ่อยขึ้น และลดการเลือกซื้อสินค้าสะดวกซื้อและสินค้าอาหารพร้อมรับประทาน (Ready-to-Eat) น้อยลง นอกจากนี้ วิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ การรอข้อเสนอพิเศษหรือการลดราคาสินค้า โดยผู้บริโภคชาวดัตช์ร้อยละ 34 จะซื้อสินค้าในช่วงเวลาที่มีการจัดโปรโมชั่นหรือการลดราคาสินค้า

ผลการสำรวจยังพบว่า แรงจูงใจในการซื้อสินค้าออร์แกนิค ผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน และผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นลดลงเล็กน้อย เนื่องจากสินค้าและผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีราคาสูงกว่า

แม้ว่าในช่วงฤดูหนาวและในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซุปเปอร์มาร์เก็ตทุกแห่งจะมีสินค้าสำหรับช่วงเทศกาลวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก อาทิ พวงมาลัยคริสต์มาส (The Christmas wreath) ของประดับตกแต่งสำหรับเทศกาลคริสต์มาส ขนมต่างๆ ไปจนถึงนมช็อคโกแลตพร้อมวิปครีม เป็นต้น แต่ผลจากการสำรวจพบว่า 1 ใน 5 ของผู้บริโภคชาวดัตช์ลดจำนวนการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพในปีนี้ โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่จะลดการซื้อสินค้าประเภทขนมทานเล่น บิสกิต และเค้กลง ซึ่งนับเป็นผลกระทบข้างเคียงในเชิงบวกที่ผู้บริโภคจะลดการบริโภคขนมทานเล่น บิสกิต และเค้กลงเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น รวมถึงลดการซื้อสินค้าอาหารพร้อมรับประทาน (Ready-to-Eat) อาหารสำเร็จรูป และอาหารแช่เข็งลง เช่น พิซซ่าแช่แข็ง ที่เคยได้รับความนิยมและมีการรับประทานกันเป็นประจำ ในขณะเดียวกันก็มีการเลือกซื้อสินค้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและราคาประหยัดเป็นตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น อาทิ ผักสดไม่ตัดแต่ง พาสต้าอบแห้ง และผักแช่แข็ง เป็นต้น

เป็นที่ทราบกันดีว่าชาวดัตช์มีชื่อด้านการประหยัดมัธยัสถ์ จะเห็นได้จากการที่ผู้บริโภคชาวดัตช์จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ยาที่วางจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป (Drugstore) เมื่อมีการจัดโปรโมชั่นสินค้าลดราคา เช่น การซื้อ 2 จ่าย 1 หรือการที่ผู้บริโภคชาวดัตช์จะขับรถข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงอย่างเยอรมนีเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคบางประเภทที่มีราคาถูกกว่าในเนเธอร์แลนด์อย่างเห็นได้ชัด อาทิ กาแฟ หรือเบียร์ หรือการที่ผู้บริโภคชาวดัตช์จะขับรถข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างเบลเยี่ยมเพื่อเติมน้ำมันเนื่องจากมีราคาถูกกว่าในเนเธอร์แลนด์ โดยร้อยละ 71 ของผู้บริโภคชาวดัตช์ทราบถึงช่องทางและวิธีในการประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นอย่างดี ประโยชน์ที่ได้จากการประหยัดไม่ใช่แค่เฉพาะในด้านการเงินเพียงอย่างเดียวแต่ร้อยละ 64 ของผู้บริโภคชาวดัตช์มีความรู้สึกดีกับสิ่งที่พวกเค้าได้ทำเพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ผู้บริโภคชาวดัตช์เกือบครึ่งเดินทางไปเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่วางจำหน่ายในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งทุกสัปดาห์ และผู้บริโภค 1 ใน 3 มักเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีราคาต่ำกว่าหรือมีการจัดโปรโมชั่นสินค้าลดราคาเพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด

บทวิเคราะห์และความเห็น สคต.

เศรษฐกิจยุโรปและเศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์ยังคงต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังมีความยืดเยื้อ วิกฤตพลังงาน วิกฤตเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย รัฐบาลเนเธอร์แลนด์จึงพยายามออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อให้การบริโภคไม่ชะลอตัวมากนัก และเพื่อให้เศรษฐกิจยังสามารถเติบโตต่อไปได้

แม้ว่าผู้บริโภคชาวดัตช์จะได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตต่างๆ อีกทั้งเพิ่มความประหยัดมัธยัสถ์ และจัดลำดับความสำคัญและระมัดระวังในการใช้จ่าย รวมทั้งตัดค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็นลง แต่ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยยังคงต้องต่อสู้ดิ้นรนและพยายามบริหารจัดการทางการเงินเพื่อให้รายได้เพียงพอกับรายจ่ายในแต่ละเดือน การที่ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ประหยัดหรือ Private Label Brand ที่มีราคาถูกกว่า สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้ผู้บริโภคโดยเฉลี่ยได้ถึงประมาณร้อยละ 40 ทำให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตราคาประหยัดและสินค้าแบรนด์ราคาประหยัดได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีราคาถูกแต่ยังคงมีคุณภาพที่ดีและได้มาตรฐาน จึงเป็นอีกหนึ่งโอกาสทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการไทยและผู้ส่งออกสินค้าของไทยที่ผลิตสินค้า OEM ให้กับ Private Label Brand ในการเจาะและขยายตลาดในเนเธอร์แลนด์ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้ โดยเฉพาะสินค้าอาหารที่ไทยมีศักยภาพสูงและเป็นที่ต้องการของตลาด และเป็นที่ยอมรับระดับโลกว่าสินค้าอาหารของไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกที่สนใจตลาดกลุ่มสินค้า Private Label Brand สามารถเข้าร่วมงานแสดงสินค้า “World of Private Label” International Trade Show หรือ PLMA ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ ทั้งสินค้าอาหารและสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร เพื่อเปิดโอกาสในการพบปะคู่ค้า อาทิ บริษัท ห้างร้าน ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก และผู้ซื้อรายใหญ่ที่เข้าเยี่ยมชมงานเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และค้นหาผู้ผลิตสินค้าสำหรับแบรนด์ของตนเอง โดยงานแสดงสินค้า “World of Private Label” International Trade Show หรือ PLMA 2023 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 24 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์แสดงสินค้า RAI Exhibition Center กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเฮก