PepsiCo เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสมน้ำมันกัญชง ภายใต้แบรนด์ Rockstar Energy ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสมน้ำมันกัญชง กลิ่นมินท์ ผสมคาเฟอีน โดยอ้างสรรพคุณในการช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกผ่อนคลาย โดยเป๊ปซี่คาดหวังว่าจะสามารถดึงดูดผู้บริโภคที่เป็นผู้หญิงวัยรุ่นให้หันมาสนใจผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มดังกล่าว จากข้อมูลสถิติแสดงให้เห็นว่ากลุ่มลูกค้าของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลังนั้นเป็นกลุ่มผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 34 ปี ซึ่งนิยมบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังมากที่สุด

Fabiola Torres ผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังของบริษัท PepsiCo กล่าวว่า ส่วนผสมที่ใช้ในเครื่องดื่มนั้นมีส่วนประกอบของสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยให้ผู้บริโภคผ่อนคลายแต่ไม่ถึงกับทำให้หลับ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มดังกล่าวมี 3 รสชาติ ได้แก่ บลูเบอร์รี่ เสาวรส และ ราสเบอร์รี่ โดยจะเริ่มทำการวางจำหน่ายทั่วประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ในรูปแบบกระป๋องในราคา 1.99 เหรียญสหรัฐฯ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในการก้าวเข้ามาบุกตลาดเครื่องดื่มผสมกัญชงของบริษัท PepsiCo โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้มีการเปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังผสมกัญชงในเยอรมันมาแล้ว

ในขณะที่ผู้บริโภคจำนวนมากเข้าใจว่าเมล็ดกัญชงนั้นเป็นชนิดเดียวกันกับ CBD จากกัญชาแต่ความเป็นจริงแล้วทั้งสองอย่างนั้นมีความแตกต่างกันในบางประการ ถึงแม้จะมีลักษณะใกล้เคียงและมาจากพืชในตระกูลเดียวกัน แต่เมล็ดกัญชงมีสาร CBD เพียงเล็กน้อยเท่านั้นหรือไม่มีเลย นอกจากนี้ยังมีการออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทน้อยกว่าจากการบริโภค

ในปัจจุบันการขายอาหารและเครื่องดื่มที่ผสมสาร CBD กัญชา ระหว่างรัฐนั้นยังถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จึงทำให้ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเครื่องดื่มอย่าง Pepsi และ Coca-Cola ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าอาหารที่มีส่วนผสมของ CBD ในลักษณะการวางจำหน่ายทั่วประเทศได้ ในขณะที่ผู้ผลิตรายเล็กนั้นได้อาศัยช่องว่างดังกล่าวผลิตสินค้าและจำหน่ายภายในรัฐต่างๆตามที่กฎหมายอนุญาต อย่างไรก็ตามส่วนแบ่งทางการตลาดของเครื่องดื่มผสม CBD ในปัจจุบันนั้นยังมีขนาดค่อนข้างเล็ก โดยชาวอเมริกันที่บริโภคเครื่องดื่ม CBD ยังคงมีอัตราส่วนเพียง 1.8% เท่านั้น

ในส่วนของผลิตภัณฑ์ผสมกัญชงนั้นถึงแม้ว่าในสหรัฐฯ จะไม่มีข้อห้ามในการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มผสมกัญชง แต่ปริมาณการจำหน่ายและความนิยมนั้นยังน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดเยอรมัน และประเทศอื่น ๆ

ข้อคิดเห็น

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันการผลิตและจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ CBD ในสหรัฐฯ นั้นจะยังมีข้อจำกัดด้านกฎหมายก็ตาม แต่เมื่อดูจากแนวโน้มความต้องการของตลาดจะเห็นได้ว่า ตลาดสินค้าอาหารที่มีส่วนผสมของ CBD นั้นจะสามารถเติบโตขึ้นได้อีกมาก ทั้งนี้เนื่องมาจากหลายปัจจัยอาทิ การเรียกร้องที่สร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลให้มีผ่อนคลายด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ และประโยชน์ทางด้านการแพทย์และสุขภาพ

มีการคาดการณ์ว่ายอดขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสม CBD ในตลาดโลกซึ่งมีมูลค่า 3,400 ล้านเหรียญฯ ในปี 2563 นั้นจะเติบโตเป็นมูลค่ามากกว่า 14,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2569 ซึ่งการเติบโตดังกล่าวจะเป็นผลมาจากการผ่านกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาในประเทศใหญ่ๆอย่างสหรัฐฯ และแคนาดา ในส่วนของตลาดสหรัฐฯ นั้นยอดขายเครื่องดื่มผสม CBD เพิ่มสูงขึ้นถึง 40% ในปี 2564 โดยมีมูลค่า 92.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

โอกาสสำหรับผู้ผลิตและผู้ส่งออกวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิตกัญชานั้นยังคงสามารถเติบโตในตลาดโลกได้อีกมาก โดยเฉพาะประเทศที่มีความสามารถด้านการเพาะปลูก อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการศึกษาและเฝ้าติดตามระเบียบข้อบังคับและโอกาสทางการค้าในประเทศเป้าหมายอย่างใกล้ชิดเนื่องมาจากสินค้ากัญชานั้นยังคงเป็นสินค้าที่มีข้อจำกัดทางด้านกฎหมายอย่างมาก

ที่มาข้อมูล : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก (กุมภาพันธ์ 2565)
www.cnbc.com

_____________________________________________
Website : http://ditp-overseas.com
Facebook: https://www.facebook.com/ditpoverseas
Youtube : https://bit.ly/36fT76e

#DITP #OMD2 #สพต2