ประชากรโลกกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากมีความสนใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุ และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในปัญหาสำคัญของผู้สูงอายุก็คือเรื่องของ “กลิ่นของผู้สูงอายุ” หรือที่นิยมพูดกันว่า กลิ่นคนแก่ นั่นเอง ทั้งนี้ จากมุมมองวิทยาศาสตร์แล้ว กลิ่นนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติในร่างกาย เมื่อมีอายุมากขึ้น ภูมิคุ้มกันโดยรวมของผู้สูงอายุจะลดลง และหากมีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรังต่างๆ ก็จะทำให้กรดไขมันอิสระมีความเข้มข้นสูงกว่าคนปกติ จนเกิดเป็นที่มาของกลิ่นผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังเกิดจากการที่ร่างกายมีเมตาบอลิซึ่มลดต่ำลง ผสมกับเหงื่อและไขมันที่สะสมบนผิวหนัง ความเสื่อมของลำไส้และช่องปาก หากผู้สูงอายุละเลยไม่ทำความสะอาดผิว ช่องปาก หรือร่างกายนานๆ กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็จะรุนแรงขึ้น
การกำจัดกลิ่นของผู้สูงอายุแบ่งเป็นสองประเภทได้แก่
1) การกำจัดกลิ่นในพื้นที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ
2) การกำจัดกลิ่นกายของผู้สูงอายุ
ความต้องการนี้สังเกตได้จากประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก่อนประเทศอื่นๆ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะเช่น ยาสระผม เจลอาบน้ำ สบู่สมุนไพร สเปรย์ระงับกลิ่นบนร่างกาย สเปรย์ระงับกลิ่นบนเสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์ดูแลเสื้อผ้า
นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ประเทศจีนซึ่งในปี 2564 มีประชากรจีนเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ (60+) ประมาณร้อยละ 19 และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มีความตื่นตัวถึงปัญหา “กลิ่นของผู้สูงอายุ” โดยมีข้อมูลจากแพลตฟอร์มออนไลน์ Zhihu ว่า หัวข้อที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากได้แก่ “การขอคำแนะนำเรื่องน้ำหอมสำหรับผู้สูงอายุ 60 – 70 ปี” และ “วิธีกำจัดกลิ่นผู้สูงอายุ” ทั้งนี้ คำว่า กลิ่นผู้สูงอายุ ถูกค้นหามากกว่า 40,000 ครั้งเลยทีเดียว
ศูนย์ข้อมูลธุรกิจ Taobao และ Yicai รายงานว่าน้ำหอมเป็นสินค้าที่ผู้บริโภควัยกลางคนและผู้สูงอายุนิยมมากขึ้น โดยความชื่นชอบของกลุ่มนี้จะชอบกลิ่นสดชื่น และยังนิยมซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าออฟไลน์เป็นหลัก
ผู้ประกอบการไทยสามารถทำการศึกษา และนำนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสินค้ากำจัดกลิ่นชนิดใหม่ๆ เพื่อเจาะตลาดการค้าสากล ไม่เพียงแต่ประเทศจีนหรือญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังมีตลาดในประเทศอื่นๆอีกมากที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน
ที่มาข้อมูล: รายงานข่าวความเคลื่อนไหวในต่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู (1-7 สิงหาคม 2565)