
ปัจจุบันสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดโลกก็มีแนวโน้มปรับตัว ซึ่งหลายประเทศได้รับผลกระทบจากต้นทุนปุ๋ยที่สูงขึ้น ทำให้ความต้องการนําเข้าข้าวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้น ซึ่งแนวโน้มความต้องการนําเข้าข้าวที่เพิ่มขึ้นของฟิลิปปินส์ถือเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกของไทย โดยฟิลิปปินส์ถือเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกข้าวสำคัญของไทย
โดยในปี 2565 ไทยส่งออกข้าวมาฟิลิปปินส์ปริมาณ 185,714 ตัน มูลค่า 2,579.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีปริมาณส่งออก 146,236 ตัน มูลค่า 1,993.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 และร้อยละ 29.40 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป ว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์จะอนุมัติข้อเสนอการนําเข้าข้าวปริมาณ 330,000 ตันในรูปแบบ G to G ดังกล่าวของหน่วยงาน NFA หรือไม่ และจะมอบหมายให้หน่วยงานใดเป็นผู้ดำเนินการในการนําเข้าอย่างถูกต้อง
เนื่องจากตามกฎหมาย Republic Act No.11203 หรือ Rice Tariffication Law ซึ่งบังคับใช้แทนนโยบายการจํากัดการนําเข้าข้าวเชิงปริมาณ เมื่อปี 2562 ได้ยกเลิกอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน NFA ในการนําเข้าข้าวเพื่อความมั่นคงของประเทศเพียงหน่วยงานเดียว ซึ่งในอดีต NFA จะนําเข้าข้าวโดยการเปิดประมูลซื้อข้าวแบบ G to G ตามกฎหมายดังกล่าว กําหนดให้หน่วยงาน NFA ยังคงมีบทบาทสำคัญเฉพาะการควบคุมและรักษาเสถียรภาพราคาในประเทศ รวมทั้งการรักษาปริมาณสต็อกข้าวภายในประเทศเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางอาหารเท่านั้น
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการไทยมีข้อสงสัยหรือ หรือข้อซักถาม สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา รวมทั้งสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการค้าได้ที่ https://ditip-overseas.com
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา