ในยุคที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การผลิตหยุดชะงักและไม่มีเสถียรภาพซึ่งเป็นผลจากข้อจำกัดในการดำเนินการผลิตของโรงงานในต้นปี 2564 ในขณะที่ เขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองมาเนาส์ซึ่งเป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 และในปี 2565 ยังคงมีความคาดหวังในทิศทางบวกว่าจะมีต้นทุนต่ำลง อาทิ ค่าขนส่ง และคาดหวังว่าการขนส่งในระบบห่วงโซ่จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ ยังมีความกังวลกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลง และผลกระทบต่อตลาดแรงงานและรายได้ครัวเรือน

จากการรายงานของผู้กำกับการของเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองมาเนาส์ในช่วงมกราคม-ตุลาคม 2564 รายได้รวมของเขตอุตสาหกรรมมาเนาส์ขยายตัวร้อยละ 42.3 คิดเป็น 724 พันล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้ถึง 870 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ผลักภาระด้านต้นทุนสูงให้แก่ผู้บริโภค จะเห็นว่าต้นทุนการขนส่งและโลจิสติกส์ในปี 2563 ค่าขนส่งที่มีตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต จากทวีปเอเชียสู่เมืองมาเนาส์มีต้นทุน 2,500 เหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ปี 2564 มีค่าขนส่ง 25,000 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งค่าขนส่งที่แพงขึ้นก็ส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้นด้วย

อุตสาหกรรมของ Amazon ที่มุ่งเน้นผลิตที่เมืองมาเนาส์ ขยายตัวร้อยละ 9.4 เมื่อปี 2563 และหดตัวในปี 2564 เหลือร้อยละ 8.4 อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินการดังกล่าวยังดีกว่าผลผลิตเฉลี่ยทั่วประเทศซึ่งขยายตัวเพียงร้อยละ 5.7 โดยมี 7 สาขาใน 10 สาขาที่ผลผลิตไม่ลดลง ได้แก่ มอเตอร์ไซต์และชิ้นส่วนเติบโตร้อยละ 4 เครื่องดื่มขยายตัวร้อยละ 2.76 และพลาสติกขยายตัวร้อยละ 1.34 สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กซึ่งรวมถึงเครื่องปรับอากาศและไมโครเวฟขยายตัวในทิศทางบวกร้อยละ 0.42 ทั้งนี้ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสายตาหดตัวร้อยละ 1.75 เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมภายในโดยรวม

ผู้กำกับการของเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองมาเนาส์ซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมการค้า การลงทุน และสิทธิประโยชน์ให้แก่บริษัทและผู้ลงทุนที่ลงทุน และมีกิจการในเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้โดยเฉพาะได้ให้ข้อสังเกตว่าปี 2564 สถานการณ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้น โดยมีการจ้างแรงงานถึง 103,000 คน หรือ ร้อยละ 7.5 ซึ่งศูนย์กลางอุตสาหกรรมเติบโตมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลบราซิลมีโปรแกรมรักษาการจ้างงานซึ่งช่วยการจ้างงานในอุตสาหกรรมภายในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19

นอกจากนี้ มีปัจจัยเสริมอุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคช่วงโควิด-19 คือ การล็อกดาวน์ช่วยกระตุ้นการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภท อาทิ เครื่องรีดผม จนถึงเครื่องดูดฝุ่น นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เย็นลงทางตอนใต้ส่งเสริมความต้องการของตลาดบราซิลต่อสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องฮีตเตอร์ซึ่งช่วยเสริมสร้างอุตสาหกรรมของเมืองมาเนาส์ โดยในปี 2564 เครื่องปรับอากาศชนิดแขวนขยายตัวร้อยละ 48 เครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่างขยายตัวร้อยละ 35 เตาอบไมโครเวฟเติบโตร้อยละ 49

ในขณะที่ การผลิตโทรทัศน์ลดลงร้อยละ 12 เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ของห่วงโซ่อุปทานในการผลิต อาทิ เชมิคอนดักเตอร์ จึงกระทบต่อปริมาณการผลิต ทั้งนี้ อุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษของมาเนาส์ผลิตโทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ และไมโครเวฟ ได้ถึงร้อยละ 100 และผลิตจอบันทึกภาพร้อยละ 70

การผลิตมอเตอร์ไซต์ก็มีแนวโน้มขยายตัวดีร้อยละ 26 คิดเป็น 1.12 ล้านคัน ซึ่งผลิตสูงสุดในรอบ 6 ปี ถึงแม้ว่า อุตสาหกรรมภายในจะหยุดผลิตประมาณ 100,000 คันในช่วง 2 เดือนแรก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเมืองมาเนาส์

สำหรับโรงงานจักรยานได้ขยายการผลิตร้อยละ 15 โดยส่วนประกอบนำเข้าจากตลาดต่างประเทศประมาณร้อยละ 50 ซึ่งความต้องการของตลาดโลกได้เพิ่มขึ้นในขณะที่ชิ้นส่วนจะมีเพียงพอต่อการผลิตถึงกลางปี 2565 อย่างไรก็ดี วัตถุดิบการผลิตมีราคาสูงมาก โดยเฉพาะเหล็กปรับราคาสูงถึงร้อยละ 40 และค่าไฟฟ้าปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ค่าขนส่งระหว่างประเทศมีต้นทุนสูงต่อเนื่องจนถึงปี 2566 ทั้งนี้ ต่างได้รับผลกระทบจากโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่กระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก

ความเห็นและข้อเสนอแนะ

1. เขตเศรษฐกิจพิเศษมาเนาส์ให้สิทธิประโยชน์ในการค้าการลงทุนต่าง ๆ แก่นักลงทุนตามที่รัฐบาลบราซิลกำหนด เขตเศรษฐกิจดังกล่าวเป็นศูนย์รวมของอุตสาหกรรมด้านปิโตรเคมี ยานยนต์ และเคมีภัณฑ์ ตัวอย่างบริษัทชั้นนำของโลกหลายแห่งที่มีฐานการผลิตในเขตเศรษฐกิจฯนี้ เช่น Coca Cola, Sumsung, LG, HONDA เป็นต้น และเป็นแหล่งผลิตสินค้าสำคัญ อาทิ โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ มอเตอร์ไซค์ เครื่องดื่ม โทรทัศน์สี อุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ปัจจุบันมีนักลงทุนไทยที่ลงทุนในบราซิลเพียงรายเดียว ได้แก่ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ Cal Com Industria e Comercio de Electronicos e Informatica Ltda. ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง Cal-Com Thailand Co,Ltd. กับบริษัทที่ไต้หวันเข้าซื้อกิจการผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บราซิลโดยลงทุนเปิดโรงงานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษมาเนาส์เมื่อปี 2553

2. นอกจากนี้ เมืองมาเนาส์เป็นตลาดที่น่าสนใจ โดยมีขนาดตลาด 2.2 ล้านคน รัฐบาลเมืองมาเนาส์ส่งเสริมโอกาสทางการค้าสำหรับการสร้างเครือข่ายภาคเอกชนโดยใช้แผนงานเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) ซึ่งประกอบด้วยโครงการที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทย มีการดำเนินงานโดยใช้เทคโนโลยี อาทิ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน อาคารสีเขียว เทคโนโลยดิจิทัล และศูนย์กลางนวัตกรรม รวมทั้งการดำเนินธุรกิจ การเชื่อมโยงท่าเรือ ความยั่งยืน ความครอบคลุม ความปลอดภัย การศึกษา และพลังงาน ซึ่งเขตเศรษฐกิจพิเศษมาเนาส์เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและการดำเนินธุรกิจในภาคเหนือของบราซิล ปัจจุบันได้ถูกจัดลำดับอันดับที่ 68 ของเป็นเมืองอัจฉริยะใน 100 แห่ง จึงเป็นโอกาสการค้าและลงทุนของไทยในบราซิลที่นักลงทุนไทยไม่ควรมองข้าม

ที่มาข้อมูล : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซาเปาโล (ธันวาคม 2564)

_____________________________________________
Website : http://ditp-overseas.com
Facebook: https://www.facebook.com/ditpoverseas
Youtube : https://bit.ly/36fT76e

#DITP #OMD2 #สพต2