ปัจจุบันยุโรปกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 13 ปี โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 สำนักงานสถิติยุโรป (Eurostat) ชี้แจงว่า ขณะนี้อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ซึ่งกำหนดโดย European Central Bank (ECB) อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทาง ECB มีแผนที่จะลดมาตรการสนับสนุนเพื่อรับมือวิกฤตโคโรนาในต้นปี 2565 นอกจากนี้ ราคาพลังงานทั้งแก๊สและไฟฟ้าคาดจะมีการปรับราคาประเมินเพิ่มสูงขึ้นมากถึง 4 เท่าตัวจากราคาปัจจุบัน ทั้งนี้ มีสาเหตุมาจาก

  • การลดการสกัดแก๊สจากบ่อก๊าซธรรมชาติที่ Groningen ทำให้เนเธอร์แลนด์ต้องพึ่งพาการนำเข้าแก๊สจากต่างประเทศมากขึ้น
  • ประเทศรัสเซียปฏิเสธที่จะส่งแก๊สเพิ่มขึ้นให้กับทางประเทศในยุโรปและหนึ่งในนั้นคือเนเธอร์แลนด์ ทั้งนี้อาจมีผลเกี่ยวเนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งรัสเซียต้องการกดดันให้สหภาพยุโรปเปิดใช่ท่อส่ง แก๊ส Nord Stream 2 ซึ่งเป็นท่อส่งแก๊สจากประเทศรัสเซียสู่ประเทศเยอรมนีให้เร็วขึ้น
  • การปิดโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วยุโรป เนื่องจากโรงงานดังกล่าวมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่สูง จึงทำให้ต้องมีการเสียภาษี CO2 เพิ่มเติมตามสัญญาสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป
  • โรงไฟฟ้าพลังงานลมในปีนี้ผลิตไฟฟ้าได้น้อยลงเนื่องจากลมปีนี้พัดน้อยกว่าปกติ

ไม่เพียงแต่ราคาพลังงานจะพุ่งสูงขึ้นเท่านั้น ราคาน้ำมันและราคาอาหารก็มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย สาเหตุที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องมาจากเนเธอร์แลนด์ได้ยกเลิกมาตรการโควิด-19 และกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว ประชาชนเริ่มกลับมาเดินทางสัญจรโดยรถยนต์ส่วนตัวกันมากขึ้น ดังนั้นความต้องการในการใช้น้ำมันจึงเพิ่มขึ้น ประกอบกับกลุ่มโอเปค และรัสเซียลดการผลิตน้ำมันลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก และเพิ่งกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกครั้ง แต่ด้วยความต้องการที่มีมากกว่าการผลิตจึงส่งผลให้ราคาน้ำมันดีดตัวสูงขึ้น เมื่อราคาน้ำมันและราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ราคาสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภคจะมีการปรับตัวสูงขึ้นตามห่วงโซ่อุปทานในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ สินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าที่ใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบหลักในการผลิต ซึ่งสถานการณ์ความผันผวนทางด้าน ราคาน้ำมันนี้คาดว่าจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นในฤดูหนาว แต่คาดว่าราคาจะเริ่มทรงตัวและลดลงเมื่อกลับเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

ราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงกับสินค่าการทำเกษตรกรรมในเนเธอร์แลนด์เป็นอย่างมาก เนื่องจากการทำเกษตรกรรมในเนเธอร์แลนด์ส่วนใหญ่เป็นสวนเกษตรในเรือนกระจก ดังนั้นเกษตรกร ชาวดัทช์จำเป็นต้องใช้พลังงานแก๊สเพื่อควบคุมอุณหภูมิให้มีความเหมาะสมกับพืชผักผลไม้แต่ละชนิด จึงคาดว่าใน สัปดาห์หน้า ราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตรในเรือนกระจกทั้งหมดที่มีวางจำหน่ายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตและตลาดทั่วไปจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาพลังงานอย่างแน่นอน บริษัทผู้ผลิตอาหารแปรรูปและอาหารสำเร็จรูปหลายราย เช่น Unilever และ PepsiCo ได้ออกมาประกาศว่าบริษัทจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้า เช่น เนยถั่ว มันฝรั่งทอด และ โคล่า เพื่อชดเชยกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ภาวะเงินเฟ้อในยุโรปครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าตลาดในประเทศเนเธอร์แลนด์ค่อนข้างมาก รัฐบาลเนเธอร์แลนด์จึงได้ออกมาตรการในการแก้ปัญหาอย่างถูกวิธีและตรงจุดไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าพลังงานแก๊สจากประเทศคู่ค้าอื่นแทนที่รัสเซีย การชะลอดอกเบี้ยให้คงที่ และการเพิ่มเงินช่วยเหลือ โดยตรงสำหรับผู้ประกอบการด้านเกษตรกรรม เพื่อช่วยพยุงราคาสินค้าและพลังงานให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติให้ได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

บทวิเคราะห์และข้อคิดเห็น

รัฐบาลเนเธอร์แลนด์เล็งเห็นถึงปัญหาและให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อในระยะยาว ผ่านโครงการความช่วยเหลือทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค อีกทั้งมีการสร้างความเข้าใจพื้นฐานและการสร้างความตระหนักให้เห็นความสำคัญของปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้ออย่างรวดเร็ว และมีการดำเนินการแก้ไขปัญหาระยะยาวที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนพร้อมใจและร่วมมือกันปรับเปลี่ยนเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อาทิ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์มีแผนสนับสนุนการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า และการเริ่มต้นการทำ Remote Work เพื่อเป็นแบบอย่างในการลดการใช้รถยนต์ในการเดินทางไปทำงานเพื่อลดความต้องการในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และใช้พลังงานทดแทนที่มีอยู่อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีมาตรการลดภาษีสำหรับผู้ประกอบการที่ลดการใช้พลาสติกในการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าเพื่อให้ภาคเอกชนให้ความสนใจและร่วมกันลดการใช้พลาสติก

ที่มาข้อมูล : รายงานข่าวเด่นจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเฮก (ต.ค. 2564)

_____________________________________________
Website : http://ditp-overseas.com
Facebook: https://www.facebook.com/ditpoverseas
Youtube : https://bit.ly/36fT76e

#DITP #OMD2 #สพต2