องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ได้มีแนวทางปฏิบัติใหม่เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตอาหาร รวมถึงบริษัทผู้ให้บริการด้านอาหาร และร้านอาหารต่าง ๆ ให้ลดระดับโซเดียมในอาหารบรรจุหีบห่อและอาหารพร้อมรับประทานที่วางจำหน่ายทั่วประเทศ โดยมุ่งเป้าไปที่การลดระดับโซเดียมในอาหารหลายชนิด ส่งผลทำให้บริษัทผู้ผลิตอาหารต้องเผชิญกับแรงกดดันอีกครั้งในการลดระดับปริมาณเกลือในอาหาร อย่างไรก็ตามนโยบายดังกล่าวยังเป็นเพียงการกำหนดแนวทางโดยความสมัครใจของผู้ผลิตโดยไม่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมายแต่อย่างใด

ในเบื้องต้น FDA ได้เปิดเผยรายการอาหารมากกว่า 160 ชนิด ซึ่งรวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากนม เบเกอรี่ เครื่องปรุงรส สัตว์ปีก เนื้อสัตว์ และอื่นๆ ที่ควรต้องมีการควบคุมปริมาณโซเดียมโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดปริมาณโซเดียมที่ผู้คน รับประทาน การบริโภคโซเดียมที่อยู่ในอาหารของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มาจากอาหาร บรรจุหีบห่อหรืออาหารจากร้านอาหาร ไม่ใช่เกลือที่เติมลงไปในการปรุงอาหารที่ บ้าน ทำให้เป็นการยากสำหรับผู้บริโภคในการควบคุมปริมาณโซเดียมด้วยตนเอง

องค์การอาหารและยากำลังผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจากชาวอเมริกันมีการบริโภคโซเดียมเกินปริมาณที่แนะนำในแต่ละวันอย่างมาก ซึ่งการบริโภคโซเดียมในปริมาณที่สูงนั้นเป็นบ่อเกิดของปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิต และ โรคไต โดยแนวทางปฏิบัติด้านอาหารในปัจจุบันแนะนำว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่มีอายุ 14 ปีขึ้นไปควรจำกัดการบริโภคโซเดียมไว้ที่ 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน แต่คนอเมริกันมีการบริโภคโซเดียมมากถึง 3,400 มิลลิกรัมต่อวัน FDA ตั้งเป้าที่จะสามารถลดการบริโภคโซเดียมลงโดยเฉลี่ย 12% จาก 3,400 เป็น 3,000 มิลลิกรัมต่อวันใน ระยะเวลา 2.5 ปีข้างหน้า โดยจะพยายามติดตามความคืบหน้าของอุตสาหกรรมอาหารและกำหนดเป้าหมายใหม่ในอนาคตเพื่อทำให้ระดับการบริโภคโซเดียมของชาวอเมริกันลดลงมาใกล้เคียงกับปริมาณที่แนะนำในที่สุด

ข้อคิดเห็น

ความพยายามของ FDA ในการควบคุมปริมาณโซเดียมในอาหารนั้นเป็นการดำเนินการต่อเนื่องมาจากการที่ได้มีการสร้างความกดดันให้ผู้ผลิตอาหารลดปริมาณโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหารหลายประเภท อาทิ ซอสมะเขือเทศ ไก่งวงแผ่น และ ขนมปังต่างๆ ในปี 2559 แสดงให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกาถือเป็นประเทศที่มีมาตรการป้องกันเกี่ยวกับสินค้าอาหารที่เข้มงวดที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ดังจะเห็นได้จากข้อกำหนดหลายๆด้านที่เกี่ยวกับมาตรฐานการผลิต การขึ้นทะเบียนผู้ผลิตอาหาร และรายละเอียดเกี่ยวกับฉลากผลิตภัณฑ์ ซึ่ง FDA มีการปรับปรุงข้อมูล และข้อกำหนดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ผลิตและส่งออกอาหารมาจำหน่ายในสหรัฐฯ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแนวทางและข้อกำหนดต่างๆของประเทศสหรัฐฯ อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันความเสียหายทางธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ นอกจาก ผลกระทบทางด้านกฎหมายแล้วนั้น การติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารของสหรัฐฯ จะช่วยให้ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายเห็นแนวโน้มความนิยมด้านอาหารของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการค้นคว้าและพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างโอกาสในการส่งออกรวมทั้งสร้างความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น

ที่มาข้อมูล : รายงานข่าวเด่นจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก (ต.ค. 2564)
www.cbsnews.com

_____________________________________________
Website : http://ditp-overseas.com
Facebook: https://www.facebook.com/ditpoverseas
Youtube : https://bit.ly/36fT76e

#DITP #OMD2 #สพต2