สหรัฐอาหรับเอมิรตส์ (ยูเออี) เริ่มปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเน้นการพึ่งพาตนเอง สร้างเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจหากพิจารณา contribution to  growth  ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีบทบาทต่อการสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของประเทศ พบว่าภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนใน GDP ปี 2564 ประมาณ 38.14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรมยูเออีและเทคโนโลยีขั้นสูง (Minister of Industry and Advanced Technology) วางแผนเร่งการขยายมูลค่าให้เพิ่มขึ้นเป็น 81 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2574

ระหว่างปี 2562 – 2564 มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมมีอัตราขยายตัว 48.7% โดยเพิ่มขึ้นจากมูลค่า 21 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อปี 2562 เป็น 32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2564

หนึ่งในกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของภาคอุตสาหกรรมของยูเออี คือการประกาศใช้นโยบาย “In-Country Value Programme (ICV)” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Projects of the 50” ในการสนับสนุนและส่งเสริมความสามาถในการผลิตสินค้าในประเทศ และพยายามดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI)

โปรแกรม ICV ประสบความสำเร็จอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 2561 เพราะสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจได้ถึง 12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อปี 2564 ในขณะเดียวกันกระทรวงอุตสาหกรรมฯ อัดฉีดเงินทุน 275 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับบริษัทในภาคอุตสาหกรรมผ่าน Emirates Development Bank (ED8) ผ่านสินเชื่อรูปแบบต่างๆ คาดว่าจะสนับสนุนบริษัทมากกว่า 13,500 แห่ง

นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมฯ ของยูเออี ได้พยายามปรับปรุงระบบให้เอื้อต่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมทั้งด้านกฎหมายและบรรยากาศการลงุทน และได้ประสานความร่วมมือแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น ภาคเอกชน และสถาบันการเงิน โดยขอให้บริษัทท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ผ่านโครงการ ICV และสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศ ให้ความสำคัญเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ให้หน่วยงานรัฐบาลบาลเลือกใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเป็นอันดับแรก รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ผลิตยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของกระบวนการเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันอีกด้วย

ยุทธศาสตร์ชาติสำหรับอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง กระทรวงอุตสาหกรรมฯสร้างกลยุทธ์เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย มีการนำโครงการริเริ่ม (initiative project ) ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องและดำเนินโครงการต่างๆมากกว่า 16 โครงการ เพื่อให้แน่ใจว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมให้มีความเข้มแข็งท่ามกลางวิกฤตจากผลกระทบของโควิด-19 ข้อกฎหมายใหม่ๆ และเทคโนโลยีที่เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว

ยุทธศาสตร์นี้มีวัตถุประสงค์ 4 ประการ ได้แก่ (1) การสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เหมาะสมและน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ (2) สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมระดับชาติ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (3) กระตุ้นนวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในภาคอุตสาหกรรม และ (4) การนำแนวทางการแก้ปัญหามาใช้เพื่อเน้นย้ำถึงคุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

“SUCCESS STORIES”

ตัวอย่างความสำเร็จของอุตสาหกรรมสัญชาติยูเออีที่สามารถผลิตเพื่อใช้ในประเทศและส่งออกไปทั่วโลก อาทิ บริษัท Burouge ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมชิโตรเคมี มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าตัวตั้งแต่ปี 2544 ผลิต Polyolefins ที่มีความต้องการมากยิ่งขึ้นเพื่อใช้แทนพลาสติกดั้งเดิม เช่น Polyiny! chloride (PVC) ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันผลิต 5 ล้านตันต่อปี ด้วยยอดขายมากกว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2564

บริษัท Edge ซึ่งเป็นหนึ่งใน 25  บริษัทของอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลกมียอดขายต่อปีมากกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งอุตสาหกรรมด้านนี้นับเป็นรากฐานสำคัญที่จะสร้างความมั่นคงและสนับสนุนให้ประเทศพัฒนาไปสู่ ‘ประเทศที่พึ่งพาตัวเองได้’ ในที่สุด

บริษัท EGA ผลิตอลูมิเนียมหล่อ 2.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 4 ของการผลิตทั่วโลก และเกือบครึ่งหนึ่งของอลูมิเนียมที่ผลิตใน GCC

บริษัท RAK  Ceramics  เป็นผู้ผลิตเชรามิกส์รายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกในธุรกิจนี้ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตเชรามิกส์ 123 ล้านตารางเมตรต่อปี

โรงงานน้ำตาล Al Khaleej แบบ Stand-alone มีกำลังการผลิตมากกว่า 7,000 ตันต่อวัน

ความเห็นของ สคต. ณ เมืองดูไบ

รัฐบาลยูเออีพยายามที่จะลดการนำเข้าโดยการผลิตสินค้าในประเทศ เพื่อลดการขาดดุลทางการค้า และสนับสนุนการส่งออก กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในระยะยาวโดยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยการส่งเสริมภาคการผลิตและการปรับปรุงภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมให้ทันสมัย รวมทั้งส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพื่อรองรับการพัฒนาดังกล่าว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงผ่านยุทธศาสตร์ Operation  300bn มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของยูเออี และเพิ่มบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการมีส่วนร่วมของภาคอุตสาหกรรมต่อ GDP จาก 36 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 82 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2574 ยุทธศาสตร์นี้สอดคล้องกับเป้าหมายระดับชาติเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การปรับใช้โซลูชั่นพลังงานสะอาด ผลักดันนวัตกรรมอุตสาหกรรม และส่งเสริมการบริโภคและการผลิตอย่างรับผิดชอบ จึงอาจส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงการนำเข้าสินค้าในอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจึงควรติดตามข่าวสารและปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้าและการแข่งขันต่อไป

ที่มาข้อมูล : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ (เมษายน 2565)
Gulf News

_____________________________________________
Website : http://ditp-overseas.com
Facebook: https://www.facebook.com/ditpoverseas
Youtube : https://bit.ly/36fT76e

#DITP #OMD2 #สพต2