ประเทศจีนนับเป็นตลาดส่งออกเครื่องประดับเงินที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งด้านการซื้อขายภายในประเทศและการส่งออก หากสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดหรือเจาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนได้ จะช่วยเพิ่มปริมาณและมูลค่าของสินค้าที่ส่งออกได้ และถึงแม้ว่าจีนจะผลิตเครื่องประดับเงินได้เอง แต่ยังมีความต้องการในการนําเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งประเทศที่จีนนําเข้าเครื่องประดับเงินมากที่สุดคือประเทศไทย ในปี 2565 มีมูลค่าการนําเข้ามายังประเทศจีนรวมทั้งสิ้น 74.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งสิ้น ร้อยละ 39.37


แต่ในช่วงต้นปี 2566 ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เครื่องประดับเงินของไทย มีมูลค่าการส่งออกไปประเทศจีนเพียง 7,465.31 ล้านบาท ซึ่งลดลงกว่าปี 2565 ในช่วงเดือนเดียวกัน เนื่องมาจากจีนเริ่มหันไปนําเข้าเครื่องประดับเงินจากอิตาลีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอิตาลีถือเป็นประเทศคู่แข่งในการส่งออกเครื่องประดับเงินเข้ามายังประเทศจีน โดยในปัจจุบันมีเพียงประเทศอิตาลีเท่านั้นที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงทัดเทียมกับประเทศไทย และเป็นประเทศที่มีส่วนแบ่งการตลาดเติบโตอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ


ถึงแม้ว่าจีนจะมีการสั่งนําเข้าเครื่องประดับเงินจากอิตาลีในอัตราที่สูงขึ้น แต่ประเทศไทยก็ยังเป็นประเทศที่จีนสั่งนําเข้ามากที่สุด และกินส่วนแบ่งของตลาดนําเข้าสินค้าประเภทนี้ ในจีนไปถึงร้อยละ 35-53 หากจีนมีความต้องการนําเข้ามากขึ้น เครื่องประดับเงินของไทย ก็มีแนวโน้มการส่งออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากเครื่องประดับเงินของไทย นอกจากจะมีราคาถูกแล้ว ยังมีเอกลักษณ์ ความประณีต และมีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค มีลวดลาย ที่หลากหลายตามแต่ละท้องถิ่น ซึ่งยังมีโอกาสอีกมากที่สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในจีนได้


ผู้ประกอบการไทยควรศึกษาข้อมูล และเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในจีน เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มการรับรู้และประชาสัมพันธ์สินค้าเครื่องเงินไทยและสร้างโอกาสในการเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการจีน หรือผู้ประกอบการต่างชาติที่เกี่ยวข้อง


หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจ และประสงค์จะนำเข้าสินค้าเครื่องเงินไทยมาในตลาดประเทศจีน สามารถรับคำปรึกษาได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้หรือสามารถติดต่อได้ที่อีเมล์ thaitcshanghai@ditp.go.th

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้