สำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก ได้รวบรวมเทรนด์สินค้าอาหารจากงานแสดงสินค้า Summer Fancy Food ระหว่างวันที่ 12-14 มิถุนายน 2565 ซึ่งจัดเป็นงานแสดงสินค้าและเครื่องดื่มแบบผู้ค้ากับผู้ค้าที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีบริษัทเข้าร่วมงานจากทั่วโลกมากถึง 1,907 บริษัท และมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 10,000 ราย โดยในปีนี้ได้มีสินค้าที่โดดเด่นภายในงานแบ่งเป็นประเภทต่างๆดังต่อไปนี้
1) Edgy Marketing Food สินค้าที่เน้นการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้แหวกแนวไปจากเดิมเพื่อดึงดูดใจผู้บริโภคมากขึ้น เช่น อาหารเด็ก จะมีคำอธิบายวิธีการทำที่เต็มไปด้วยคำพูดชวนขัน ไม่ธรรมดา
2) New Age Protein Skin Snack เป็นขนมขบเคี้ยวโปรตีนสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ เช่น ขนมขบเคี้ยวจากหนังไก่ และหนังปลาแซลมอน
3) Hot Stuff Flavour ในปีนี้ผลิตภัณฑ์ซอสรสเผ็ดได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคมีความกล้าลองผลิตภัณฑ์รสชาติแปลกใหม่มากขึ้น รวมไปถึงรสเผ็ดด้วย ทำให้มีความต้องการอาหารรสเผ็ดเพิ่มมากขึ้นในท้องตลาด
4) Twisting Traditions Food คือผลิตภัณฑ์อาหารที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบอาหารตามวัฒนธรรมจากชาติต่างๆ เช่น ในช่วงที่ผ่านมา พริกผสมน้ำมัน กระเทียม หรือพริกแห้งจากวัฒนธรรมจีนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ปีนี้ได้มีผู้ประกอบการผสมผสานรสชาติจีนเข้ากับรสชาติละตินเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เช่น Chingona Salsa Macha เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภค
5) Ginger is the new Tumeric ขมิ้นชันได้รับความนิยมมากในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา ในปีนี้ความนิยมได้พัฒนามาสู่ขิงเพิ่มเติม และมีการแปรรูปเป็นยาชูกำลัง วิตามิน และอาหารเสริม
6) Taste Good, Do Better Food ผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่เพียงแต่รสชาติดี แต่ยังนำเสนอผ่านแนวคิดเศรษฐกิจยั่งยืน เช่น ลดขยะโลก ด้วยการผลิตขนมขบเคี้ยวจากผักและผลไม้มีตำหนิที่จะถูกทิ้งเป็นขยะ แต่กลับนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้เป็นของอร่อย
7) Functional Snacking อาหารว่างที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายโดยมีส่วนผสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น เห็ด เมล็ดบัว โดยสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านรสชาติที่มีให้เลือกหลากหลายมากยิ่งขึ้น

Mixing Up the Norm คือเครื่องดื่มรูปแบบใหม่ ที่สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการดื่มได้หลากหลายรูปแบบและช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
9) เทรนด์อื่นๆ คือการเพิ่มคุณประโยชน์เข้าไปในผลิตภัณฑ์ผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น สารอาหาร คุณค่าของงานฝีมือผ่านบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
กระแสความนิยมด้านอาหารในปีนี้ มีหลายหัวข้อที่ประเทศไทยมีทรัพยากรตามธรรมชาติ และมีความถนัดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ผู้ประกอบการจึงควรใช้โอกาสนี้ในการพัฒนา ปรับปรุงรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้ได้รับความสนใจ และตรงความต้องการของผู้บริโภค และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการเจาะตลาดสหรัฐฯ โดยผู้ส่งออกควรเตรียมความพร้อมด้วยการศึกษากฎระเบียบและมาตรฐานการนำเข้าสินค้าให้ครบถ้วนชัดเจน