It is a long established fact that a reader will be distracted by the readable content of a page when looking at its layout.
จากรายงานของหอการค้าบริการและการท่องเที่ยวชิลี (Chilean National Chamber of Commerce, Services and Tourism: CNC) ระบุว่ายอดขายสินค้าปลีกในเขตเมืองหลวง (Metropolitan region: RM) มีการขยายตัวถึงร้อยละ 32.4 ในปี 2564 โดยเป็นผลมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการผ่อนคลายมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั้งนี้ การขยายตัวดังกล่าวได้ปัจจัยสนับสนุนจากการที่รัฐบาลชิลีให้ประชาชนสามารถถอนเงินประกันสังคมในกองทุนการว่างงานจำนวนร้อยละ 10 สำหรับใช้สอยเพิ่มขึ้น และการลดหย่อนภาษีในช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้อำนาจการซื้อประชาชนโดยรวมเพิ่มขึ้น คิดเป็นมูลค่าเกือบ 80 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสในเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ชาวชิลีมีการจับจ่ายเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 25 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 (แผนภูมิที่ 1)
แผนภูมิที่ 1: การค้าปลีกของสินค้าในเขตเมืองหลวง (Index average 2018=100)
จากข้อมูลแผนภูมิที่ 2 ยอดขายเสื้อผ้า/เครื่องแต่งกาย โดยเฉพาะเสื้อผ้าสตรีมีการขยายตัวสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าอื่น ซึ่งในเดือนธันวาคม 2564 มีการขยายตัวร้อยละ 52.1 และในส่วนของรองเท้า มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.6 ในเดือนธันวาคม 2564
แผนภูมิที่ 2: ยอดขายปลีกสินค้าในหมวดที่มีการขยายตัวในเดือนธันวาคม 2564
จากข้อมูลแผนภูมิที่ 3 ยอดขายเสื้อผ้า/เครื่องแต่งกาย โดยเฉพาะเสื้อผ้าสตรีในช่วงเดือนเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 มีการขยายตัวสูงที่สุด คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 104.7 ในส่วนของรองเท้า มีการขยายตัวในช่วงเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 54.9
แผนภูมิที่ 3: ยอดขายปลีกสินค้าในหมวดที่มีการขยายตัวช่วงเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564
ทั้งนี้ การผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุขของชิลี ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ส่งผลให้ประชาชนเริ่มซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นในหมวดของชำ เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า รองเท้า และเครื่องแต่งกาย เนื่องจากในช่วงการบังคับใช้มาตรการกักตัวที่บ้าน ประชาชนให้ความสนใจซื้อสินค้าดังกล่าวน้อยลง
จากข้อมูลในตารางที่ 1 ชิลีนำเข้าเสื้อผ้า/เครื่องแต่งกาย และรองเท้าจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2563 – 2564 ทำให้ไทยอยู่ในลำดับ 9 ที่ชิลีนำเข้าสินค้าเสื้อผ้า/เครื่องแต่งกาย (จากเดิมไทยอยู่ในลำดับที่ 23) และในส่วนของรองเท้า แม้จะนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นแต่ไทยอยู่ในลำดับ 23 ที่ชิลีนำเข้ารองเท้า (จากเดิมไทยอยู่ในลำดับที่ 21)
ตารางที่ 1: การนำเข้าเสื้อผ้า/เครื่องแต่งกาย และรองเท้าของชิลี ระหว่างปี 2563 – 2564
เสื้อผ้า / เครื่องแต่งกาย | รองเท้า | |
การนำเข้ารวมจากทั่วโลก ปี 2564 (CIF USD) | 15,092,462 5 ประเทศแรกที่นำเข้าสูงสุด: – จีน 55.67% – Unknown 11.56% -เวียดนาม 7.21% – เปรู 4.22% – บังคลาเทศ 2.99% |
909,317,811 5 ประเทศแรกที่นำเข้าสูงสุด: – จีน 61.03% – เวียดนาม 17.63% – อินโดนีเซีย 6.20% – บราซิล 3.77% – Unknown 1.84% |
การนำเข้ารวมจากไทย ปี 2564 (CIF USD) | 203,138 ไทยอยู่ในลำดับที่ 9 จาก 43 ประเทศด้วยส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 1.35 |
699,528 ไทยอยู่ในลำดับที่ 23 จาก 71 ประเทศด้วยส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 0.08 |
การนำเข้ารวมจากทั่วโลก ปี 2563 (CIF USD) | 15,660,191 | 594,479,334 |
การนำเข้ารวมจากไทย ปี 2563 (CIF USD) | 26,034 ไทยอยู่ในลำดับที่ 23 จาก 45 ประเทศด้วยส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 0.17 |
770,263 ไทยอยู่ในลำดับที่ 21 จาก 66 ประเทศด้วยส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 0.13 |
บทวิเคราะห์ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจต่อประเทศไทย
การจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีรวม 30 ฉบับ กับ 67 ประเทศของชิลี เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้ง การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในการนำเข้าสินค้าภายใต้ความตกลงดังกล่าวทำให้ประชาชนในประเทศมีทางเลือกสำหรับสินค้าที่หลากหลายขึ้น ประกอบกับผู้บริโภคในปัจจุบันสามารถค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้โดยง่ายทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้โดยสะดวกยิ่งขึ้น จึงไม่แปลกใจที่ยอดขายสินค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะเสื้อผ้า / เครื่องแต่งกาย และรองเท้าในชิลีจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการเกี่ยวกับโควิด-19
ผู้ประกอบการในท้องถิ่นของชิลีมีการปรับตัวรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยเพิ่มการนำเข้าวัตถุในการผลิตจากต่างประเทศ และนำเข้าสินค้าจากประเทศเพิ่มขึ้นให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งผู้ประกอบการชิลีมีแนวโน้มให้ความใส่ใจมากขึ้นต่อคุณภาพของสินค้า ทั้งนี้ ผู้ผลิตจากต่างประเทศเห็นว่าตลาดเสื้อผ้า / เครื่องแต่งกาย และรองเท้าของชิลีมีโอกาสเติบโตได้มากในอนาคต และผู้ผลิตดังกล่าวยังสามารถใช้ชิลีเป็นประตูการค้าจำหน่ายสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคลาตินอเมริกา นอกจากนี้ จากข้อมูลสำมะโนประชากรปี 2563 ของชิลี พบว่าประชากรส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 15 – 64 ปี หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 68 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งประชากรกลุ่มนี้เป็นวัยทำงานและมีความสามารถในการจับจ่าย แม้ตลาดชิลีจะมีขนาดเล็ก แต่จากข้อมูลของธนาคารโลก ชิลีอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูงและเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในภูมิภาคลาตินอเมริกา รวมทั้ง การบริโภคของภาคเอกชนมีการขยายตัวโดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้า / เครื่องแต่งกาย และรองเท้า โดยชิลีนำเข้าเสื้อผ้า / เครื่องแต่งกาย และรองเท้าส่วนใหญ่จากภูมิภาคเอเชีย
แนวโน้มความต้องการสินค้าของผู้บริโภคชิลีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดกลุ่มเสื้อผ้า / เครื่องแต่งกาย และรองเท้า โดยผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ชิลี เนื่องจากสินค้าในกลุ่มดังกล่าวได้รับการยกเว้นภาษีการนำเข้าแล้ว อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการและนักออกแบบเสื้อผ้าของไทยจะต้องผลิตสินค้าที่ตรงความต้องการของผู้บริโภคชิลีที่ต้องการการออกแบบที่มีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร (unique piece) และควรสร้างความแตกต่างของสินค้าไทยให้เป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภคชาวชิลี เนื่องจากชาวชิลีชื่นชอบการออกแบบเสื้อผ้าร่วมสมัย และเปิดรับรูปแบบการออกแบบใหม่ ๆ ดังนั้น การนำเสนอรูปแบบการออกแบบเครื่องแต่งกายให้มีความร่วมสมัย การออกแบบที่ทันสมัย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสามารถสวมใส่ได้ในหลากหลายโอกาส โดยเน้นคุณภาพของผ้าและการตัดเย็บ และการใช้ผ้าไทยที่มีความละเอียดประณีตจะเป็นโอกาสให้เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มของไทยสามารถเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภคชาวชิลีที่ต้องการความแตกต่าง
ที่มาข้อมูล : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก (กุมภาพันธ์ 2565)
_____________________________________________
Website : http://ditp-overseas.com
Facebook: https://www.facebook.com/ditpoverseas
Youtube : https://bit.ly/36fT76e
#DITP #OMD2 #สพต2