สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจหดตัวอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการบริโภคสินค้าและบริการของชาวอเมริกัน และผลการสำรวจผู้บริโภคชาวอเมริกันล่าสุดโดย NPD Group ระบุว่า ชาวอเมริกันร้อยละ 80 มีแผนจะลดการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการลงในช่วงหกเดือนข้างหน้า โดยจะเลือกซื้อแต่สิ่งของที่จำเป็น และตั้งใจจะเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาจำหน่ายถูกกว่าสินค้าแบรนด์ติดตลาดโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารและของใช้ภายในบ้าน และมีแผนจะชะลอการซื้อของชิ้นใหญ่เช่น บ้าน รถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดใหญ่ในช่วงอีกหกเดือนข้างหน้าอีกด้วย
แต่การหดตัวทางเศรษฐกิจดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะการส่งออกของไทย เนื่องจากสหรัฐฯยังต้องการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อลดปริมาณอุปสงค์ส่วนเกินซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ บวกกับผลกระทบจากการดำเนินมาตรการตอบโต้ทางการค้ากับประเทศจีน และค่าเงินบาทที่อ่อนตัวทำให้ประเทศไทยยังรักษาความสามารถทางการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯไว้ได้ โดยคาดว่าในปีนี้จะมีมูลค่าการส่งออกสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภคของไทยไปยังสหรัฐฯประมาณ 1 พันล้านเหรียญ หรือขยายตัวประมาณ 10%
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยควรใช้โอกาสที่ชาวสหรัฐฯลดการใช้จ่ายในบริการนอกบ้าน ในการพัฒนาสินค้าที่พรีเมี่ยมให้ผู้บริโภคใช้งานได้เองที่บ้านเช่น ชุดปรุงอาหารไทย ชุดดูแลเส้นผม และสปาจากสมุนไพรไทย โดยเน้นการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด ไม่กินพื้นที่ขนส่ง ราคาต่อหน่วยถูกกว่าการใช้บริการนอกบ้าน น่าจะช่วยสร้างมูลค่าทางการค้าให้กับสินค้าไทยในช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวได้อีกทางหนึ่ง
ที่มาข้อมูล: ข่าวเด่นประจำสัปดาห์ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองไมอามี (25 – 31 กรกฎาคม 2565)
#MOC #DITP #OMD #TradeOpportunities #USA #Recession