ปัจจุบัน เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงชาวสิงคโปร์ ทำให้ประชาชนต้องรอบคอบในการใช้เงินมากขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ดี ความต้องการสินค้าและบริการบางประเภทยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เช่น ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคเชิงเทคโนโลยีมีการเติบโต 2.4% ในปี 2565 ตามมาด้วยสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัว


จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดแนวคิดเปลี่ยนเเปลงพฤติกรรมการบริโภค โดยชาวสิงคโปร์ ส่วนใหญ่มีความอ่อนไหวต่อการเลือกบริโภคและต้องการเลือกสินค้าที่คุ้มค่าเงินให้มากที่สุด จากการสำรวจสถิติของ Adyen มีเพียง 48% ชาวสิงคโปร์สามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้เลย เเต่อีก 42% จะต้องดูร้านค้าเพื่อเปรียบเทียบก่อนว่าร้านใดบ้างราคาถูกและคุ้มค่าแสดงให้เห็นว่า ชาวสิงคโปร์ มีความอ่อนไหวและภักดีต่อเเบรนด์ค่อนข้างน้อย เพราะหากทางร้านค้าคู่แข่งได้ลดราคาสินค้าลง ชาวสิงคโปร์ก็อาจจะพร้อมซื้อสินค้าได้มากขึ้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายของตนเอง ร้านค้าต่าง ๆ จึงหาวิธีการดึงดูดลูกค้าหลากหลายรูปแบบ เช่น คูปองส่วนลด หรือสร้างรหัสส่งเสริมการขายเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ ให้มาซื้อมากขึ้น โดยไม่ต้องรอเทศกาลสำคัญต่าง ๆ


ชาวสิงคโปร์ยังคาดหวังการบริโภคที่รวดเร็วและทันต่อโลกเทคโนโลยี จากผลสำรวจของ Global Consumer Insights Pulse Survey ของ PWC ในปี 2566 พบว่า ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ชื่นชอบการซื้อของแบบดิจิทัลมากกว่าซื้อจากร้านค้าปลีกแบบเดิม ทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ต้องปรับรูปแบบการซื้อขายสินค้าผ่านเทคโนโลยีให้ทันสมัยมากขึ้น เช่น การจัดร้านให้ลูกค้าสามารถลองผลิตภัณฑ์ได้แบบเสมือนจริง


ซึ่งสิ่งชาวสิงคโปร์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก คือการเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัสดุหมุนเวียนไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลัก หรือ บรรจุภัณฑ์ เช่น การเปลี่ยนถุงพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้งมาเปลี่ยนวัสดุเป็นถุงที่ใช้ไม้ไผ่ที่ย่อยสลายได้ จากการสำรวจ Open Text พบว่า ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ จะเลือกแบรนด์สินค้าที่มีจรรยาบรรณสูง แบรนด์สินค้าต่าง ๆ จึงต้องสำรวจการดำเนินการของคู่ค้า ที่จะมาร่วมงานด้วยเพื่อสร้างความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง


อย่างไรก็ตามแบรนด์ร้านค้าต่าง ๆ ต้องเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และปรับตัวให้เข้ากับผู้บริโภค ต้องนำเสนอสินค้าที่เป็นกระเเสและทันสมัย เพื่อให้ชาวสิงคโปร์มีความสนใจซื้อสินค้า จึงเป็นความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องนำเสนอสินค้าที่มีความยั่งยืนแต่ในขณะเดียวกันสินค้าควรมีราคาและช่องทางที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้เพื่อให้เกิดประสบการณ์การซื้อที่ดี ต่อแบรนด์และร้านค้า


ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการไทยมีข้อสงสัยหรือข้อซักถาม สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์ รวมทั้งสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร ที่เป็นประโยชน์ต่อการค้าได้ที่ https://ditip-overseas.com

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์