รัฐบาลในประเทศสิงคโปร์กำลังเพิ่มการนำเข้าข้าวประเภทต่าง ๆ จากหลายประเทศ หลังจาก ที่อินเดียได้ระงับการส่งออกข้าวขาว โฆษกสำนักงานอาหารสิงคโปร์ (Singapore Food Agency : SFA) กล่าวว่า SFA ได้ติดต่อทางการอินเดีย เพื่อขอยกเว้นจากการระงับส่งออกครั้งนี้ ทั้งนี้ อุปทานข้าว ในสิงคโปร์ยังคงมีเสถียรภาพเพียงพอ หากประชาชนซื้อในปริมาณที่จำเป็นต่อการบริโภค เนื่องจากสิงคโปร์มีกลยุทธ์หลากหลายแนวทางในการกระจายการนำเข้า และการสำรองสินค้า ภายใต้โครงการคลังเก็บข้าว (The Rice Stockpile Scheme) เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ามีสินค้าข้าวเพียงพอในตลาด และจะเป็นการรับมือ หากเกิดปัญหาการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในการนำเข้าข้าว และนอกจากนี้ สิงคโปร์ยังกระจายและนำเข้าข้าวจาก 30 ประเทศ


ในปี 2565 สิงคโปร์นำเข้าข้าวขาวจากอินเดียคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% โดยการนำเข้าข้าวขาว ซึ่งอินเดียเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้สั่งระงับการส่งออกข้าวขาว เพื่อรักษาราคา ในประเทศให้อยู่ในราคาที่จับต้องได้ รัฐบาลอินเดียกล่าวว่า การส่งออกข้าวจะได้รับอนุญาต หากมีคำขอจากรัฐบาลที่ต้องการจัดการปัญหาเรื่องความมั่นคงทางอาหาร


ทางโฆษก DFI Retail Group ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ของสิงคโปร์ กล่าวว่า บริษัทไม่ได้ขึ้นราคาข้าวอินเดีย และความต้องการข้าวขาวอินเดียยังคงทรงตัว ยกเว้นในสัปดาห์ที่มีการประกาศการระงับการส่งออกฯ ส่งผลให้ความต้องการข้าวขาวอินเดียเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะนี้ ทางบริษัทฯ กำลังติดตามสถานการณ์และทำงานอย่างใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์หลาย ๆ รายของบริษัท เพื่อให้ได้ราคาข้าวอินเดีย ที่เหมาะสม การระงับการส่งออกข้าวของอินเดียครั้งนี้ ส่งผลให้อุปทานข้าวขาวทั่วโลกตึงตัวขึ้น เนื่องจากอินเดียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลก และอาจก่อให้เกิดความไม่มั่นคงทางด้านอาหารในหลายประเทศ และสิงคโปร์ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้เช่นกัน เพราะสิงคโปร์นำเข้าข้าวขาวคิดเป็น 17% ของปริมาณการนำเข้าข้าวทั้งหมดของสิงคโปร์


จึงเป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการไทย เพราะผู้นำเข้าสิงคโปร์อาจจะมองหาแหล่งซัพพลายเออร์อื่นเพื่อทดแทนการนำเข้าข้าวจากอินเดีย อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการควรศึกษาวิธีการข้อกำหนดด้านกฎระเบียบการนำเข้าสินค้าอาหารของสิงคโปร์ ความปลอดภัยในกระบวนการผลิต การแปรรูป เพื่อการผลิตและส่งออกที่ได้มาตรฐาน พร้อมติดตามสถานการณ์แนวโน้มตลาดของสินค้าดังกล่าว เพื่อแสวงหาโอกาสในการขยายตลาดต่อไป


ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการไทยมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์ รวมทั้งสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารทางการค้าได้ที่ https://ditp-overseas.com

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์