
เสร็จสิ้นไปแล้วสําหรับการประกวดนางงามจักรวาล (Miss Universe) ครั้งที่ 71 เวทีการประกวดที่ยิ่งใหญ่อีกเวทีหนึ่งซึ่งชาวไทยต่างจับตามองและส่งกําลังใจไปสนับสนุนน้องแอนนา (แอนนา เสืองามเอี่ยม) ตัวแทนสาวงามจากประเทศไทยที่ร่วมประกวดเพื่อพิชิตตําแหน่งที่หญิงสาวทั่วโลกต่างใฝ่ฝันที่จะได้ครอบครอง โดยการประกวดในปีนี้จัดขึ้น ณ เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนาซึ่งนอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของสหรัฐฯ แล้วยังเป็นทั้งเมืองสําคัญที่มีประวัติศาตร์ทางวัฒนธรรมและการค้าที่สําคัญในภูมิภาคตอนใต้ของสหรัฐฯ
เมืองนิวออร์ลีนส์(New Orleans) หรือ “โนลา” (Nola) ชื่อเล่นที่ชาวอเมริกันท้องถิ่นมักจะเรียกกัน (จากการรวมคําของ “NO” อักษรย่อของชื่อเมือง นิวออร์ลีนส์และ “LA” อักษรย่อของชื่อรัฐลุยเซียนาในภาษาอังกฤษ) มีที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ํามิสซิสซิปปีใกล้กับอ่าวเม็กซิโก (Gulf of Mexico) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐลุยเซียนา ถือเป็นศูนย์กลางเมืองท่าขนส่งสินค้าทางเรือที่สําคัญในเขตพื้นที่ตอนใต้ของสหรัฐฯ และพื้นที่ริมอ่าวเม็กซิโกซึ่งประกอบไปด้วย รัฐเท็กซัส รัฐลุยเซียนารัฐแอละแบมา และรัฐฟลอริดา
นอกจากนี้ เมืองนิวออร์ลีนส์ยังเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรัฐลุยเซียนา ทั้งในด้านของขนาดของพื้นที่และจํานวนประชากร โดยมีขนาดพื้นที่ทั้งสิ้น 349.8 ตารางไมล์(เทียบเท่าจังหวัดอ่างทอง) และมีจํานวนประชากรทั้งสิ้นประมาณ 376,971 คน (ปี 2564) อีกทั้ง ยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว อาหาร ดนตรีเป็นยังต้นกําเนิดทางวัฒนธรรมที่สําคัญของชาวอเมริกัน ได้แก่ 1) ดนตรีเช่น แจ๊ส และ American Blue 2) อาหาร เช่น เคจัน(Cajun) กัมโบ (Gumbo) และจัมบาลายา (Jambalaya)และ 3) เทศกาลเฉลิมฉลอง Mardi Gras งานเฉลิมฉลองก่อนเทศกาลถือศีลอดสําหรับชาวคริสต์จัดขึ้นเป็นประจําทุกปีในเดือนกุมภาพันธ์ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างปี 2564 –2565 เมืองนิวออร์ลียส์ยังถือเป็นเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ ที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 19 อีกด้วย
รัฐลุยเซียนา (Louisiana ตัวย่อรัฐ LA)เป็นเมืองเก่าแก่ที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสและสเปน ก่อนที่สหรัฐฯ จะซื้อพื้นที่ดังกล่าวต่อจากฝรั่งเศสเป็นเงินทั้งสิ้น 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีพ.ศ.2346 (The Louisiana Purchase 1803) ในช่วงยุคประธานาธิบดีโธมัส เจฟเฟอร์สันโดยรัฐลุยเซียตั้งอยู่ในเขตภูมิภาคตอนใต้ของสหรัฐฯ และเป็นหนึ่งใน 16 รัฐในเขตอาณาดูแลของสํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก มีเมือง Baton Rouge เป็นเมืองหลวงพรมแดนของรัฐทางทิศตะวันตกติดกับรัฐเท็กซัสทิศเหนือติดกับรัฐอาร์คันซอ และทิศตะวันออกติดกับรัฐมิสซิสซิปปี ทิศใต้ติดกับอ่าวเม็กซิโก ในปี2564 รายได้ประชากรเฉลี่ย 30,340 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี รายได้ครัวเรือนเฉลี่ย 53,571 ดอลลาร์สหรัฐมีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 4.62 ล้านคน ส่วนใหญ่ร้อยละ 62.4 เป็นชาวผิวขาว ร้อยละ 33 เป็นชาวผิวสีร้อยละ 5.6 เป็นฮีสแปนิก และร้อยละ 1.9 เป็น
เอเชียซึ่งมีกลุ่มชาติพันธ์หลากหลาย เช่น เวียดนาม เกาหลี อินเดีย จีน ฟิลลิปปินส์ และไทย เป็นต้น
อุตสาหกรรมที่สําคัญของรัฐ ได้แก่ การผลิต (น้ํามันปิโตรเลียมก๊าซธรรมชาติ เคมีภัณฑ์ ไม้ กระดาษ โลหะ ชิ้นส่วนเครื่องบิน อาหารและเครื่องดื่ม) การประมง (คลอว์ฟิช กุ้ง และหอยนางรม) การต่อเรือ การเกษตรกรรม (ถั่วเหลือง ฝ้ายน้ําผึ้ง น้ําตาลอ้อย ข้าว มันหวานและถั่วพีแคน) และการบริการการท่องเที่ยว เป็นต้น
สินค้าส่งออกสําคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ (ร้อยละ26.31) น้ํามันปิโตรเลียม (ร้อยละ22.47) ถั่วเหลือง (ร้อยละ 12.52) ข้าวโพด (ร้อยละ 7.98) น้ํามันดิบ (ร้อยละ 6.00) น้ํามันถั่วเหลือง ( ร้อยละ 2.27 ) ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (ร้อยละ 2.07) ข้าวสาลี(ร้อยละ 1.34) โพลิเมอร์ (ร้อยละ1.08) และอะคีลิก (ร้อยละ 1.07)ตามลําดับ
สินค้านําเข้าสําคัญ ได้แก่ น้ํามันปิโตรเลียม (ร้อยละ 19.28) น้ํามันดิบ (ร้อยละ 14.19) ปุ๋ยไนโตรเจน (ร้อยละ 4.78) อะลูมิเนียม (ร้อยละ 3.71) กาแฟ (ร้อยละ 3.14) เฟอร์โรลลอย (ร้อยละ 2.71) ทองแดงและอัลลอยด์ (ร้อยละ 2.68) ปุ๋ยโพแทสเซียม (ร้อยละ 2.13) น้ํามันปาล์ม (ร้อยละ 2.07) และปุ๋ยสูตรรวม (ร้อยละ1.95) ตามลําดับ
แหล่งนําเข้าสินค้าที่สําคัญ ได้แก่ เม็กซิโก (ร้อยละ12.97) แคนาดา (ร้อยละ 10.20)รัสเซีย (ร้อยละ 8.71) จีน (ร้อยละ4.75) บราซิล (ร้อยละ 4.69)ซาอุดิอาระเบีย (ร้อยละ 4.27)เ ก า ห ล ี ใ ต ้ ( ร ้ อ ย ล ะ 3 . 5 4 )
อินโดนีเซีย (ร้อยละ 3.30)ออสเตรเลีย (ร้อยละ 2.95) และอิรัก (ร้อยละ 2.86) ตามลําดับ
ส่วนการนําเข้าสินค้าของสหรัฐฯ จากไทยผ่านรัฐลุยเซียนานั้นมีมูลค่าทั้งสิ้น 220.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.62 ของมูลค่าการนําเข้าทั้งหมดของรัฐ(อันดับที่ 35)ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 47.66เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา
สินค้าที่สหรัฐฯ นําเข้าจากไทยผ่านรัฐลุยเซียนา ได้แก่ยางธรรมชาติ (ร้อยละ 41.87) แป้ง (ร้อยละ 12.31) ยางรถยนต์ (ร้อยละ 10.35) จักรยานยนต์ (ร้อยละ 3.99) เครื่องจักร (ร้อยละ2.91) บรรจุภัณฑ์ (ร้อยละ 2.72) เครื่องกล (ร้อยละ 2.59) ท่อขนส่ง (ร้อยละ 1.92) อีพ๊อกซี (ร้อยละ1.68) และโพรพิลีนออกไซด์(ร้อยละ 1.68) ตามลําดับ