ในยุคที่ทั้งโลกกำลังประสบปัญหาราคาน้ำมันปรับตัวสูง ส่งผลให้ประเทศคิวบาต้องเผชิญกับภาวะราคาจำหน่ายน้ำมันในประเทศแพงขึ้นอย่างมาก และเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันอย่างหนัก ทำให้ชาวคิวบันเริ่มใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากรัฐบาลมีนโยบายควบคุมราคาจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในท้องตลาดให้ประชาชนเข้าถึงได้ (ราคาคันละ 2,000 -–5,000 เหรียญสหรัฐ) และมีการจำกัดการนำเข้ารถจักรยานยนต์พลังงานน้ำมันอีกด้วย ในปัจจุบัน คิวบามีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจำนวนทั้งสิ้น 300,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ประมาณ 100,000 คัน โดยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นสกู๊ตเตอร์ขนาดเล็กที่มีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่กลางตัวถัง ทำความเร็วได้ไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยส่วนใหญ่มีการนำเข้าจากจีน และมีการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ โดยมีกำลังการผลิตปีละ 8,000 คัน มีการคาดการณ์ว่า ด้วยสถานการณ์น้ำมันและภาวะเศรษฐกิจของประเทศคิวบา ยังจะต้องมีการสนับสนุนให้ใช้ยานพาหนะพลังงานทางเลือกภายในประเทศอย่างต่อเนื่องในอนาคต ผู้ประกอบการไทยจึงควรพิจารณาโอกาสในการขยายตลาดกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ใช้งาน และบำรุงรักษาจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เช่น ยางล้อรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก เบาะรถ โครงรถ แบตเตอรี่ หมวกนิรภัย และชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ และเริ่มมีผู้ประกอบการไทยในกลุ่มจักรยานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น จึงนับเป็นโอกาสในการขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศคิวบา อย่างไรก็ดี ประเทศคิวบายังคงปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ทำให้การบริหารประเทศรวมถึงการตัดสินใจด้านกฎระเบียบทางการค้าต่างๆยังเป็นอำนาจภายใต้ระบบสภาเดียว จึงอาจเกิดความผันผวนได้ง่าย ผู้ประกอบการไทยจึงควรทำการศึกษาและทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมทางการเมืองและกฎระเบียบการค้าภายในของคิวบาอย่างละเอียดเพื่อเตรียมความพร้อมและลดอุปสรรคทางการค้าที่อาจจะเกิดขึ้น ที่มาข้อมูล: ข่าวเด่นประจำสัปดาห์จากสหรัฐอเมริกา สำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองไมอามี (25-29 กรกฎาคม 2565) #MOC #DITP #OMD #TradeOpportunities #Cuba #GreenEnergy