
สำนักงานสถิติแห่งชาติประเทศฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนกรกฎาคม 2566 ผ่อนคลายลง สะท้อนการชะลอตัวของต้นทุนอาหารและสาธารณูปโภค โดยอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 4.7 เป็นอัตราการเพิ่มขึ้นประจำปีที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 แต่อัตราเงินเฟ้อดังกล่าวยังคงสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางที่ตั้ง ซึ่งอัตราเงินเฟ้อไม่รวมรายการอาหารและเชื้อเพลิง ทั้งนี้ ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (Bangko Sentral ng Pilipinas: BSP) จะมีการประชุมโดยได้คงอัตราดอกเบี้ย หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 9 ครั้ง ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายหลักอยู่ที่อยู่ที่ร้อยละ 6.25
โดยธนาคารกลางฟิลิปปินส์ระบุว่า ความเสี่ยงจากการปรับขึ้นค่าจ้าง ค่าโดยสารและปัญหา การจัดหาอาหารยังคงมีอยู่ ซึ่งธนาคารพร้อมที่จะปรับจุดยืนของนโยบายการเงินตามความจำเป็น เพื่อป้องกันแรงกดดันด้านราคาในวงกว้างขึ้น รวมถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นเพิ่มเติม โดยการที่สถานการณ์เงินเฟ้อสูงในประเทศฟิลิปปินส์ได้ผ่อนคลายลงนั้น เกิดจากปัจจัยหลักคือ ราคาอาหาร การขนส่งและสาธารณูปโภค ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงถือเป็นสัญญาณที่ดี ทำให้ผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์กลับมามีความเชื่อมั่นที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะมีแนวโน้มลดลงแต่ยังคงอยู่ในระดับสูง และมีปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในตลาดอาหารโลกและข้อจำกัดด้านอุปทานในประเทศของฟิลิปปินส์ ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการไทยมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา รวมทั้งสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารทางการค้าได้ที่ https://ditp-overseas.com
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา